บทความ

การหมิ่นประมาท

  สรุป การหมิ่นประมาท      หมิ่นประมาท  คือ การใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม อันประการจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง   หมิ่นประมาท (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326) ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 ระบุถึงการกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทไว้ว่า “ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สามโดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328) ถ้าความผิดฐานหมิ่นประมาทได้กระทำโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร เหรียญกษาปณ์ ธนบัตร หรือวัตถุอื่น กระทำโดยการกระจายเสียง หรือการกระจายภาพ หรือโดยกระทำการป่าวประกาศด้วยวิธีอื่น ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท ดูหมิ่นซึ่งหน้า (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 393) การหมิ่นประมาทบุคคลธรรมเป็นความผิดอันยอมความกันได้ ในทางกฎหมายได้นิยามคำว่าหมิ่นประมาทไว้ว่า "ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดู

ทวงหนี้ ประจานผ่านสื่อสังคมเครือข่าย

สรุป ทวงหนี้ ประจานผ่านสื่อสังคมเครือข่าย        การที่เอารูปคนอื่นมาโพสต์ ว่าเขาอย่างนั้นอย่างนี้ การไปด่าคนอื่นแบบนี้มีความผิดทางกฎหมาย การโพสต์เฟสบุ๊คถือเป็นอิสระของเราก็จริงแต่การใช้สิทธิ์ของเรานั้น จะต้องไม่กระทบผู้อื่นไม่งั้นอาจเป็นการผิดกฎหมาย ถ้าหากการโพสต์เฟสบุ๊คของคุณ มีการกระทำดังต่อไปนี้เป็นความผิดได้   1. ไปด่าชาวบ้าน เพราะการไปด่าชาวบ้านถือเป็นการใส่ความคนอื่น   2. การไปด่าคนอื่น ซึ่งทำให้เขาเสียหาย อาจมีความผิดได้   3. การโพสต์เฟสด่าคนอื่น  ถือว่าเป็นการด่าคนอื่น ถือว่าเป็นการด่าคนอื่นต่อบุคคลที่ 3 แล้วมันเป็นคส่มผิดแน่นอน  ดังนั้น การโพสต์เฟสบุ๊คด่าคนอื่นก็อาจจะเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท

พฤติกรรมเสี่ยง พรบ. คอมพิวเตอร์

สรุป พฤติกรรมเสี่ยง พรบ. คอมพิวเตอร์    1. เอาภาพ รูปลามกอนาจารขึ้นแสดงอินเตอร์เนต ติดคุกได้ถึงห้าปี หรือปรับได้ถึงหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2. ปล่อยข่าวให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย ติดคุกได้ถึงห้าปี หรือปรับถึงหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ   2. ปล่อยข่าวให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย ติดคุกได้ถึงห้าปี หรือปรับถึงหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 3. ตัดต่อภาพภาพนิ่งภาพวีดีโอ แล้วนำมาเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต ทำให้เจ้าของภาพเสียหาย ถูกฟ้องอาจ ติดคุกได้ถึงสามปี หรือเจอปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 4. ขโมยข้อมูลของคนอื่น ถ้าถูกจับได้ ถูกดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์ รวมทั้งตามกฎหมายลิขสิทธิ์ และพรบ. คอมพิวเตอร์ 5. ใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น ให้คนอื่นเสียหาย อับอาย ติดคุกได้ถึงห้าปี หรือปรับได้ถึงหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 6. เอา ID หรือ Password ผู้อื่นไปแอบดูข้อมูลต่างๆ เจอฟ้องเรียกร้องค่าเสียหาย มีสิทธิ์ติดคุกทั้งปรับ 7. เอางานของคนอื่น ไปลบ เพิ่มเติม หรือแก้ไขเนื้อหาในนั้น จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ แต่สุดท้ายเกิดความเสียหายแก่เจ้าของไฟล์นั้น ติดคุกได้ถึงห้าปี หรือปรับไม่เ

พรบ. คอมพิวเตอร์

สรุป พรบ.คอมพิวเตอร์           พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์  หรือ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ฉบับล่าสุดได้มีการประกาศใช้เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2560 ซึ่งเป็น พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฉบับ 2 ความผิดอาญาตามพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ 1. เจ้าของไม่ให้เข้าระบบคอมพิวเตอร์ของเขา แล้วเราแอบเข้าไปดู  เจอคุก 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10 , 000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2.   แอบไปรู้วิธีการเข้าระบบคอมพิวเตอร์ของเค้า แล้วบอกให้คนอื่นรู้  เจอคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20 , 000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 3. ข้อมูลของเขา เขาเก็บไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ดีๆ แล้วแอบไปล้วงข้อมูลของเขาออกมา  เจอคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40 , 000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 4. เขาส่งข้อมูลหากันผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบส่วนตั ว แล้วเราทะลึ่งไปดักจับข้อมูลของเขา  เจอคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60 , 000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 5. ข้อมูลของเขาอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ของเขา เราดันมือบอนแก้  เจอคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน100 , 000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 6. ระบบคอมพิวเตอร์ของเค้าทำงานอยู่ดีๆ เราดัน ยิง  packet  หรือ

การรู้เท่าทันลิขสิทธิ์

สรุป การรู้เท่าทันลิขสิทธิ์         ลิขสิทธิ์   เป็น ทรัพย์สินทางปัญญา ประเภทหนึ่งที่มอบสิทธิทางกฎหมายที่มอบให้ผู้สร้างสรรค์งานแต่เพียงผู้เดียวในการเผยแพร่ ทำซ้ำ หรือดัดแปลงงานที่สร้างสรรค์ โดยทั่วไปแล้ว งานที่ได้รับความคุ้มครองลิขสิทธิ์เป็นงานสร้างสรรค์ทางปัญญาทุกรูปแบบ เช่น   งานเขียน   งานดนตรี   งานนาฏศิลป์   งาน ศิลปะ   ภาพถ่าย   ภาพยนตร์   โปรแกรมคอมพิวเตอร์   เป็นต้น          เจ้าของลิขสิทธิ์สามารถมอบสิทธิ์ให้แก่บุคคลอื่นได้ โดยอาจจะมอบสิทธิ์ทั้งหมดหรือเพียงบางส่วนก็ได้ เช่น สิทธิ์การตีพิมพ์ สิทธิ์การแปล สิทธิ์การดัดแปลง เป็นต้น        ลิขสิทธิ์มีระยะเวลาจำกัด ระยะเวลาของลิขสิทธิ์โดยทั่วไปคือเริ่มตั้งแต่การสร้างสรรค์งาน และสิ้นสุด 50 ถึง 100 ปีหลังจากผู้สร้างสรรค์เสียชีวิต ขึ้นอยู่กับกฎหมายของแต่ละเขตอำนาจ ลิขสิทธิ์ถูกจำกัดโดยข้อจำกัดและข้อยกเว้นของกฎหมายลิขสิทธิ์ เช่น   การใช้ลิขสิทธิ์ของผู้อื่นโดยชอบ กฎหมายลิขสิทธิ์ในบางประเทศมีข้อกำหนดในการสถาปนาลิขสิทธิ์ เช่น การขึ้นทะเบียนงาน แต่ประเทศส่วนใหญ่ในปัจจุบันถือว่าการคุ้มครองลิขสิทธิ์เริ่มต้นขึ้นเมื่องานถูกสร้างโดยไม่จำ

การรู้เท่าทันสื่อ

สรุป การรู้เท่าทันสื่อ 1. สื่อทั้งหลายล้วนแต่ถูกสร้างขึ้นด้วยเทคนิค มุมกล้อง สี เสียง และการตัดต่อ ดังนั้น สือจริงไม่ใช่กระจกที่สะท้อนความเป็นจริงที่เราคิดว่ามันใช่ 2. บุคคลหรือองค์กรที่สร้างสื่อมีจุดมุ่งหมายที่ต้องการประโยชน์ หรือต้องการเปลี่ยนความคิดของเราเสมอ  3.  สื่อส่วนใหญ่ถูกทำขึ้นเพื่อหวังผลและกำไร พยายามปลูกฝังค่านิยมทั้งทางตรงและทางอ้อมให้เราเห็นว่าสินค้าและบริการนั้นมีแต่ข้อดี และมีความเป็นของนิยม 4. สื่อจำนวนไม่น้อย เลือกข้างทางการเมือง และจะนำเสนอโน้มเอียงไปทางกลุ่มการเมืองที่ตนเองชื่นชอบ   การไม่ให้ตกไปเป็นเหยื่อของสื่อ ด้วยเทคนิคดังนี้ 1. สังเกตองค์กรผู้ผลิตสื่อ  2. สังเกตเนื่อหาของสื่อและค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติม 3. แยกแยะระหว่างข้อมูลกับความคิดเห็นให้ชัด  4. รู้จักประเมินและเลือกรับข้อมมูลข่าวสารที่มีประโยชน์

อินโฟกราฟิก

รูปภาพ
อินโฟกราฟิก  เรียกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของ ‘Data Visualization’ เป็นเครื่องมือเล่าเรื่องยุคใหม่ที่มีสไตล์โดนใจคนเมืองไม่แพ้กัน! โดยวิธีการเล่าเรื่องนั้นก็จะใช้ ‘ รูปภาพ’  เป็นการสื่อสารหลักหรือตัวนำเรื่องราวครับ โดยเจ้า  อินโฟกราฟิก   จะทำการย่อยข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบของภาพ  แผนภูมิ   แผนผัง   สัญลักษณ์  หรือกราฟ ต่างๆ ฯลฯ ไม่ว่าข้อมูลจะ  Deep  ขนาดไหน อินโฟกราฟิกก็สามารถย่อยข้อมูลให้เข้าถึงและเข้าใจได้ง่ายๆในพริบตาเดียวเชียวล่ะ ทั้งนี้ที่พิเศษไปกว่านั้นยังสามารถใส่  สี  หรือ ออกแบบลูกเล่น ให้ดูสวยงามเพื่อเพิ่มความน่าสนใจและดึงดูดผู้อ่านได้อีกด้วยครับ